Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ตัวช่วยผิวใสที่หลายคนหลงรัก แต่รู้ไหมว่าต้องใช้ความเข้มข้นเท่าไหร่ถึงจะเห็นผลจริง? บทความนี้มีคำตอบ!
Niacinamide มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่เห็นผล! เลือกยังไงให้เป๊ะปัง?
สวัสดีค่ะสาว ๆ! วันนี้เรามาคุยกันถึงเรื่องส่วนผสมยอดฮิตที่ทุกคนต้องเคยได้ยินกันแน่ ๆ อย่าง Niacinamide กันค่ะ เชื่อว่าหลายคนคงมีคำถามในใจว่า "ครีมที่มี Niacinamide ต้องใส่กี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะเห็นผลจริง ๆ?" และ "มีข้อควรรู้หรือข้อควรระวังอะไรบ้างไหม?" บทความนี้เราจะมาเจาะลึกทุกประเด็นที่คุณอยากรู้แบบละเอียดเลยค่ะ
ทำความรู้จักกับ Niacinamide พระเอกของงานผิวสวย
Niacinamide คือวิตามินบี 3 ที่เป็นพระเอกในการดูแลผิวของเราเลยก็ว่าได้ค่ะ เพราะคุณสมบัติของนางมีเยอะมาก ทั้งช่วยลดรอยดำ รอยแดงจากสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ กระชับรูขุมขน ควบคุมความมันบนใบหน้า เสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง และยังช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ได้อีกด้วย เรียกได้ว่าครอบจักรวาลเรื่องผิวสวยเลยค่ะ
แต่ในเมื่อมีคุณสมบัติมากมายขนาดนี้แล้ว ทำไมบางคนถึงบอกว่าใช้แล้วไม่เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน? หรือบางคนกลับรู้สึกระคายเคือง นั่นอาจเป็นเพราะเราเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความเข้มข้นของ Niacinamide ที่ไม่เหมาะสมกับสภาพผิวของเราก็ได้ค่ะ
⏺︎ กี่เปอร์เซ็นต์ถึงจะเห็นผล? ไขข้อข้องใจความเข้มข้นที่ใช่
มาถึงคำถามสำคัญที่หลายคนอยากรู้แล้วค่ะว่า "ควรใช้ Niacinamide กี่เปอร์เซ็นต์ดี?" จริง ๆ แล้วความเข้มข้นที่แนะนำจะอยู่ที่ 2-10% ค่ะ ซึ่งแต่ละช่วงความเข้มข้นก็จะมีคุณสมบัติเด่นที่แตกต่างกันออกไป
1. ช่วงความเข้มข้น 2-5%
ช่วงความเข้มข้นนี้เหมาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นใช้ Niacinamide หรือคนที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวบอบบางเป็นพิเศษค่ะ ในช่วงนี้คุณสมบัติเด่น ๆ ของนางคือช่วยให้ผิวแข็งแรงขึ้น ลดการอักเสบของผิว ลดเลือนรอยแดงจากสิว ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นอย่างอ่อนโยน และยังช่วยควบคุมความมันได้เล็กน้อย
- 2%: เหมาะกับคนที่ต้องการฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวที่อ่อนแอ และต้องการความชุ่มชื้นแบบไม่หนักหน้า
- 3-4%: เหมาะสำหรับลดรอยแดงจากสิว ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และลดการอักเสบของผิว
- 5%: เป็นความเข้มข้นที่เห็นผลครอบคลุมที่สุดในกลุ่มนี้ ทั้งช่วยลดรอยดำจากสิว ปรับผิวให้กระจ่างใสขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ควบคุมความมัน และช่วยกระชับรูขุมขนได้เป็นอย่างดีค่ะ
สำหรับสาว ๆ ที่อยากเริ่มต้นใช้ Niacinamide แนะนำให้เริ่มจาก 5% ก่อนค่ะ จะเห็นผลได้ชัดเจนและมีโอกาสระคายเคืองน้อยมาก
2. ช่วงความเข้มข้น 10%
ความเข้มข้นระดับนี้จะเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วและชัดเจนกว่าช่วง 2-5% อย่างแน่นอนค่ะ คุณสมบัติเด่นของนางคือช่วยลดรอยดำ รอยแดง และกระ จุดด่างดำต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควบคุมความมันบนใบหน้าได้ดีมาก และยังช่วยกระชับรูขุมขนให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้นด้วยค่ะ
⏺︎ ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ Niacinamide ที่หลายคนอาจเข้าใจคลาดเคลื่อน
นอกจากเรื่องความเข้มข้นแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่องที่คนเข้าใจผิดเกี่ยวกับ Niacinamide ค่ะ เราเลยขอหยิบยกมาอธิบายให้เข้าใจกันใหม่เพื่อการใช้ที่ถูกต้องและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
1. Niacinamide ใช้ไม่ได้กับวิตามินซี
เรื่องนี้เป็นความเชื่อที่ผิดค่ะ! เดิมทีมีความเชื่อที่ว่า Niacinamide กับวิตามินซีจะลดประสิทธิภาพของกันและกันหากใช้ร่วมกัน แต่ในปัจจุบันมีผลการวิจัยมากมายที่ยืนยันแล้วว่าสามารถใช้ร่วมกันได้ แถมยังเสริมประสิทธิภาพกันได้ดีด้วยค่ะ Niacinamide จะช่วยลดการอักเสบและเสริมเกราะป้องกันผิว ขณะที่วิตามินซีจะช่วยเรื่องความกระจ่างใสและต้านอนุมูลอิสระ เมื่อใช้คู่กันจึงทำให้ผิวของเรากระจ่างใสและแข็งแรงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
2. ยิ่งใช้ความเข้มข้นสูงยิ่งเห็นผลเร็วและดีกว่า
ความเชื่อนี้ไม่เป็นความจริงเสมอไปค่ะ! แม้ว่าความเข้มข้นสูงอย่าง 10% จะให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนและรวดเร็ว แต่ก็มีโอกาสที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือเพิ่งเริ่มต้นใช้ Niacinamide ถ้าหากใช้แล้วรู้สึกแสบ แดง หรือคัน ก็ควรรีบลดความเข้มข้นลงมาทันทีค่ะ
⏺︎ แล้ว Niacinamide กับ BHA, AHA ใช้คู่กันได้ไหม?
คำถามยอดฮิตอีกข้อที่หลายคนสงสัยคือ Niacinamide สามารถใช้ร่วมกับ BHA (Salicylic acid) หรือ AHA ได้ไหม? คำตอบคือ ใช้ร่วมกันได้และให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมด้วยค่ะ Niacinamide จะช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงและลดการระคายเคืองที่อาจจะเกิดขึ้นจากการใช้ BHA/AHA ได้ดีมาก
- การใช้คู่กับ BHA: BHA มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวและเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยลดการอุดตันของสิว ในขณะที่ Niacinamide จะช่วยควบคุมความมันและลดการอักเสบของสิว การใช้คู่กันจึงช่วยให้สิวหายเร็วขึ้นและลดโอกาสการเกิดสิวใหม่ได้อย่างดีเยี่ยมค่ะ
- การใช้คู่กับ AHA: AHA มีคุณสมบัติช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบนให้หลุดออกไป ทำให้ผิวดูเรียบเนียนและกระจ่างใสขึ้น เมื่อใช้คู่กับ Niacinamide ที่ช่วยลดรอยดำและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่ดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้นกว่าเดิมค่ะ
สังเกตผิวตัวเองก่อนตัดสินใจ
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเลือกใช้ Niacinamide หรือสกินแคร์ตัวไหนก็ตาม คือการสังเกตผิวตัวเองค่ะ ถ้าคุณมีผิวแพ้ง่ายหรือเป็นคนที่ไม่เคยใช้ Niacinamide มาก่อน แนะนำให้เริ่มจากความเข้มข้น 5% ก่อน เพื่อให้ผิวได้ปรับตัวและทำความรู้จักกับส่วนผสมนี้ค่ะ เมื่อผิวคุ้นเคยแล้วและรู้สึกว่าอยากเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น ค่อยขยับไปใช้ความเข้มข้น 10% ก็ยังไม่สายค่ะ
อยากให้ทุกคนมองว่า Niacinamide เป็นเพื่อนรักที่คอยดูแลผิวของเราค่ะ ถ้าใช้ถูกวิธีและถูกความเข้มข้น ผิวสวยใสก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนค่ะ