Hyaluronic Acid แบบ 5 โมเลกุล เติมน้ำให้ผิวได้ลึกได้จริงไหม?

อยากผิวฉ่ำวาวแบบไม่ต้องพึ่งฟิลเลอร์ แต่ไม่รู้จะเลือกสกินแคร์ตัวไหนดีใช่ไหมล่ะคะ? มาดูกันว่า Hyaluronic Acid แบบ 5 โมเลกุล ที่ว่ากันว่าเติมน้ำผิวได้ลึกถึงชั้นในสุด จะจริงแค่ไหน แล้วทำไมถึงเป็นไอเท็มเด็ดที่สาว ๆ วงการบิวตี้ห้ามพลาด!

5 โมเลกุลเติมน้ำลึกได้จริงหรือ? ไขข้อข้องใจเรื่อง Hyaluronic Acid ที่หลายคนเข้าใจผิด

สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ วันนี้เราจะมาคุยเรื่องสกินแคร์ตัวฮิตตลอดกาลอย่าง Hyaluronic Acid (HA) กันค่ะ เชื่อว่าหลายคนต้องมีไอเท็มที่มี HA เป็นส่วนผสมอยู่ในกรุแน่นอน แต่เคยสงสัยไหมคะว่าทำไมบางคนใช้แล้วรู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้นจริง ๆ แต่บางคนกลับรู้สึกว่าผิวแห้งกว่าเดิมเสียอีก? แถมตอนนี้ยังมี HA สูตรใหม่ที่เคลมว่ามีถึง 5 โมเลกุลอีกต่างหาก มันจะช่วยเติมน้ำผิวได้ลึกจริงไหม แล้วมันต่างจากแบบเดิม ๆ ยังไง วันนี้เราจะมาเจาะลึกกันให้หายสงสัยเลยค่ะ

ทำความเข้าใจ “ขนาดโมเลกุล” สำคัญอย่างไรกับผิว?

ก่อนอื่นเราต้องเข้าใจก่อนว่าผิวของเราไม่ได้มีแค่ชั้นเดียว แต่ประกอบด้วยชั้นผิวที่ซับซ้อนหลายชั้น ซึ่งแต่ละชั้นก็มีหน้าที่และคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป การจะเติมความชุ่มชื้นให้ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้น สิ่งสำคัญคือต้องเติมได้ลึกถึงชั้นผิวที่ต้องการค่ะ และขนาดของโมเลกุลนี่แหละที่เป็นตัวกำหนดว่าสารบำรุงจะซึมซาบลงไปได้ลึกแค่ไหน

  • โมเลกุลขนาดใหญ่ (High Molecular Weight): จะทำหน้าที่เคลือบผิวเป็นฟิล์มบาง ๆ ช่วยป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากผิว ทำให้ผิวด้านนอกดูชุ่มชื้นทันที
  • โมเลกุลขนาดกลาง (Medium Molecular Weight): จะซึมลึกได้มากกว่าโมเลกุลขนาดใหญ่เล็กน้อย ช่วยเติมความชุ่มชื้นในชั้นหนังกำพร้า (Epidermis) ได้ดีขึ้น
  • โมเลกุลขนาดเล็ก (Low Molecular Weight): สามารถซึมลึกเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) ได้ ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ทำให้ผิวมีความยืดหยุ่นและเต่งตึงจากภายใน

จะเห็นได้ว่า HA ที่มีขนาดโมเลกุลแตกต่างกันก็มีหน้าที่ที่แตกต่างกันไป การใช้ HA ที่มีเพียงโมเลกุลเดียวจึงอาจให้ผลลัพธ์ที่ไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร เพราะได้แค่ความชุ่มชื้นที่ผิวชั้นนอกเท่านั้น

 

“Hyaluronic Acid 5 โมเลกุล” ที่แท้จริงคืออะไร?

จากที่เราได้ทำความเข้าใจเรื่องขนาดโมเลกุลกันไปแล้ว ก็พอจะเดาได้ใช่ไหมคะว่า Hyaluronic Acid 5 โมเลกุล คือการรวมเอา HA ที่มีขนาดโมเลกุลที่แตกต่างกัน 5 ระดับมาไว้ในผลิตภัณฑ์เดียวกัน เพื่อให้สามารถดูแลผิวได้อย่างครบวงจรตั้งแต่ชั้นนอกสุดไปจนถึงชั้นในสุด

ลองนึกภาพตามนะคะว่าการมี HA 5 โมเลกุลในสกินแคร์ขวดเดียวก็เหมือนกับการสร้างเกราะป้องกันความชุ่มชื้นให้ผิวแบบ 360 องศาค่ะ ตั้งแต่การสร้างฟิล์มบาง ๆ เคลือบผิวไว้ไม่ให้น้ำระเหยออกไป ไปจนถึงการแทรกซึมลงไปเติมน้ำให้เซลล์ผิวในชั้นลึก ๆ เพื่อให้ผิวอิ่มฟูและยืดหยุ่นจากภายใน ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ไม่ใช่แค่ผิวดูชุ่มชื้นแค่ชั่วคราว แต่เป็นการบำรุงที่ยั่งยืนในระยะยาวเลยค่ะ

 

แล้วถ้าไม่ใช้ Hyaluronic Acid 5 โมเลกุล มีอะไรทดแทนได้บ้างไหม?

แน่นอนว่าโลกของสกินแคร์ไม่ได้มีแค่ HA ค่ะ ยังมีส่วนผสมอีกมากมายที่ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นได้ดีไม่แพ้กัน และอาจจะตอบโจทย์ปัญหาผิวบางอย่างได้ตรงจุดกว่าด้วยซ้ำ

  • Ceramide (เซราไมด์): เป็นไขมันธรรมชาติที่อยู่ในผิวของเรา มีหน้าที่เป็นเหมือนปูนที่เชื่อมอิฐ (เซลล์ผิว) ให้ติดกัน ช่วยสร้างเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง ลดการระคายเคือง และป้องกันการสูญเสียน้ำได้ดี เหมาะมากสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือผิวที่เกราะป้องกันอ่อนแอ
  • Glycerin (กลีเซอรีน): เป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่พบได้บ่อยในสกินแคร์ มีคุณสมบัติในการดึงน้ำจากอากาศเข้าสู่ผิว ช่วยให้ผิวรู้สึกนุ่มและชุ่มชื้นขึ้นทันที แต่บางคนอาจรู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อย
  • Squalane (สควาเลน): เป็นน้ำมันธรรมชาติที่ใกล้เคียงกับไขมันที่ผิวสร้างขึ้นเอง ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นและบำรุงผิวให้นุ่มนวลโดยไม่ทำให้รู้สึกมันเยิ้ม เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวแห้ง

 

สรุปแล้ว Hyaluronic Acid 5 โมเลกุล จำเป็นไหม?

คำตอบคือ “จำเป็น” สำหรับคนที่ต้องการดูแลผิวแบบครบวงจรและแก้ปัญหาผิวแห้งได้อย่างตรงจุดค่ะ เพราะการใช้ HA ที่มีหลายโมเลกุลจะช่วยให้ผิวได้รับความชุ่มชื้นในทุกชั้นผิว ไม่ใช่แค่ชุ่มชื้นแค่ภายนอก แต่ผิวจะอิ่มน้ำจากภายในอย่างแท้จริง ทำให้ผิวดูเต่งตึง กระชับ และสุขภาพดีขึ้นในระยะยาวค่ะ

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกสกินแคร์ก็ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและปัญหาของแต่ละคนด้วยค่ะ หากผิวไม่ได้แห้งมาก การใช้ HA แบบทั่วไปก็อาจจะเพียงพอแล้ว แต่ถ้าใครมีปัญหาสภาพผิวแห้งกร้าน แต่งหน้าไม่ติด หรือผิวขาดน้ำจนรู้สึกระคายเคืองง่าย การลองใช้ Hyaluronic Acid 5 โมเลกุลก็ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ เลยค่ะ

Tips: ลองสังเกตตัวเองดูนะคะว่าผิวเราแห้งแบบไหน? ถ้าผิวแห้งแค่ภายนอกอาจจะต้องการแค่ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวชั้นบน แต่ถ้าผิวแห้งลึกถึงภายใน (ผิวขาดน้ำ) ก็ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ซึมลึกได้ดีกว่าค่ะ

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Hyaluronic Acid

เพื่อน ๆ เคยสงสัยคำถามเหล่านี้บ้างไหมคะ?

  • ใช้ Hyaluronic Acid แล้วทำไมผิวถึงแห้งกว่าเดิม?
    • อาจเป็นไปได้ว่าคุณใช้ HA ในที่ที่อากาศแห้งเกินไป หรือไม่ได้ใช้ควบคู่กับผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเพื่อล็อกความชุ่มชื้นไว้ค่ะ HA มีคุณสมบัติในการดึงน้ำจากบริเวณที่มีความชื้นสูง หากอากาศรอบตัวแห้ง HA ก็จะดึงน้ำจากผิวของเราออกไปแทน ทำให้ผิวแห้งกว่าเดิมได้ค่ะ
  • Hyaluronic Acid ใช้ได้กับทุกสภาพผิวจริงหรือ?
    • จริงค่ะ! HA เป็นส่วนผสมที่อ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง จึงสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว ไม่ว่าจะเป็นผิวมัน ผิวแห้ง หรือผิวผสม
  • ใช้ Hyaluronic Acid ร่วมกับวิตามินซีได้ไหม?
    • ได้ค่ะ! HA และวิตามินซีเป็นคู่หูที่ช่วยเสริมฤทธิ์กันได้ดีค่ะ HA ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ในขณะที่วิตามินซีช่วยเรื่องความกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ การใช้คู่กันจึงช่วยให้ผิวดูสดใสและอิ่มน้ำมากขึ้นค่ะ

สุดท้ายนี้ อยากจะฝากไว้ว่าการจะเลือกสกินแคร์ตัวไหนก็ขึ้นอยู่กับความต้องการและสภาพผิวของแต่ละคนนะคะ การศึกษาข้อมูลและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จะช่วยให้เราเจอสกินแคร์ที่ใช่สำหรับตัวเองค่ะ ถ้าใครมีคำถามเพิ่มเติมหรืออยากแลกเปลี่ยนความรู้เรื่องสกินแคร์ก็คอมเมนต์ไว้ได้เลยนะคะ ยินดีมาก ๆ ค่ะ!

ติดต่อผลิตครีม/สอบถามเพิ่มเติม

  • Line ID
    @i.c.laboratories
  • ที่ตั้งโรงงาน
    444 หมู่1 ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ
    จ.สมุทรปราการ 10270
  • ที่ตั้งออฟฟิศ
    239/44-45 ม.5 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ
    จ.สมุทรปราการ 10270