ไม่ว่าจะผิวแห้ง ผิวหมองคล้ำ หรือริ้วรอยก่อนวัย ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป ถ้าคุณรู้จักส่วนผสมมหัศจรรย์ในสกินแคร์ที่ชื่อว่า Tocopherol หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า วิตามินอี นั่นเอง
เคยรู้สึกไหม... ว่าทำไมใช้ครีมมาตั้งเยอะ แต่ผิวก็ยังไม่ดีขึ้นเลย?
สวัสดีค่ะทุกคน... เคยเป็นกันไหมคะ? ซื้อครีมบำรุงผิวมาหลายยี่ห้อ ใช้มาก็หลายตัว แต่ไม่ว่าจะทาเท่าไหร่ ผิวก็ยังดูหมองคล้ำ ไม่สดใส มีริ้วรอยเล็กๆ โผล่มาทักทายก่อนวัยอันควรซะอีก...
ก่อนหน้านี้ฉันเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นค่ะ จนกระทั่งได้มาลองศึกษาเรื่องส่วนผสมในสกินแคร์อย่างจริงจัง และได้ค้นพบ "ขุมทรัพย์" ที่แท้จริง นั่นก็คือวิตามินอีหรือชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าTocopherol ค่ะ
คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อนี้มาบ้างแล้ว แต่รู้ไหมว่าวิตามินอีที่อยู่ในสกินแคร์ของเรานั้น ไม่ได้มีแค่คุณสมบัติให้ความชุ่มชื้นธรรมดาๆ นะคะ แต่เป็นพระเอกตัวจริงที่จะช่วยกู้ผิวโทรมๆ ของเราให้กลับมาสดใสได้อีกครั้งเลยล่ะค่ะ
ทำไมสาวๆ วัยทำงานอย่างเราถึงขาดวิตามินอีไม่ได้?
ในแต่ละวัน... ผิวของเราต้องเผชิญกับสารพัดมลภาวะ ทั้งรังสียูวีจากแสงแดด, ฝุ่นควัน, อนุมูลอิสระจากความเครียด และการทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ผิวเราเสื่อมสภาพเร็วขึ้น...
และนี่คือเหตุผลที่วิตามินอีกลายเป็นส่วนผสมที่จำเป็นมากๆ ค่ะ เพราะมันมีคุณสมบัติหลักๆ ดังนี้:
- สารต้านอนุมูลอิสระตัวท็อป: วิตามินอีจะทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันผิวจากอนุมูลอิสระ ที่เป็นสาเหตุของริ้วรอยและความหมองคล้ำ ช่วยชะลอความแก่ของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กู้ผิวให้แข็งแรง: มันจะช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับเกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ทำให้ผิวเก็บความชุ่มชื้นได้ดีขึ้น ลดการระคายเคือง และทำให้ผิวดูอิ่มฟู สุขภาพดี
- เพื่อนซี้ของวิตามินซี: รู้ไหมว่าเมื่อวิตามินอีทำงานร่วมกับวิตามินซี จะช่วยเสริมประสิทธิภาพกันและกันได้ดีมากๆ วิตามินซีจะช่วยให้ผิวกระจ่างใส ส่วนวิตามินอีจะช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย ทำให้ผิวเราสวยใสแบบครบวงจร
แล้วถ้าครีมที่คุณใช้ ไม่มีวิตามินอีเลย จะเกิดอะไรขึ้น?
ลองจินตนาการดูสิคะ... การที่ผิวของเราต้องเผชิญกับมลภาวะทุกวัน โดยไม่มีเกราะป้องกันที่ดีพอ ก็เหมือนกับการปล่อยให้ผิวถูกทำร้ายซ้ำๆ ทุกวันๆ
- ผิวแก่เร็ว: ริ้วรอยเล็กๆ อาจจะมาเยือนก่อนวัยอันควร และผิวจะดูไม่กระชับ
- ผิวแห้งกร้าน: ผิวจะสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย ทำให้แต่งหน้าไม่ติดทน
- ผิวหมองคล้ำไม่สดใส: อนุมูลอิสระที่มาทำร้ายผิว จะทำให้ผิวเราดูเหนื่อยล้า ไม่เปล่งปลั่ง
ทำความรู้จัก Tocopherol กับ Tocopheryl Acetate... เหมือนหรือต่างกัน?
เคยสังเกตไหมคะว่าในส่วนผสมของสกินแคร์บางตัว จะเขียนว่า Tocopherol แต่บางตัวก็เขียนว่า Tocopheryl Acetate สองตัวนี้ต่างกันอย่างไร?
- Tocopherol (วิตามินอีบริสุทธิ์): เป็นรูปแบบที่ผิวเราสามารถนำไปใช้ได้ทันที มีคุณสมบัติในการเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ทรงพลัง
- Tocopheryl Acetate: เป็นอนุพันธ์ของวิตามินอี มีความเสถียรสูงกว่า ทำให้เก็บรักษาได้ง่ายกว่า และเมื่อซึมเข้าสู่ผิวแล้ว เอนไซม์ในผิวจะเปลี่ยนให้เป็น Tocopherol เพื่อให้ผิวสามารถนำไปใช้งานได้ต่อไป
โดยทั่วไปแล้ว ทั้งสองรูปแบบก็มีคุณสมบัติที่ดีต่อผิวไม่ต่างกันมากนัก เพียงแค่ Tocopheryl Acetate อาจจะเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่ายมากกว่า เพราะมีความระคายเคืองต่ำค่ะ
เคล็ดลับการเลือกซื้อครีมที่มีวิตามินอีให้ได้ผลดีที่สุด
การเลือกซื้อครีมที่มีส่วนผสมของวิตามินอีก็มีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ นะคะ:
- เลือกวิตามินอีที่มาพร้อมวิตามินซี: เพื่อเสริมประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระและช่วยให้ผิวสวยใสแบบ x2
- ดูตำแหน่งของส่วนผสม: ส่วนผสมที่ระบุไว้ลำดับแรกๆ จะมีปริมาณมากกว่าส่วนผสมที่ระบุไว้ในลำดับท้ายๆ ค่ะ
- เลือกครีมในบรรจุภัณฑ์ที่ทึบแสง: เพราะวิตามินอีสามารถถูกทำลายได้ง่ายจากแสงแดดและอากาศ บรรจุภัณฑ์แบบทึบแสงจะช่วยรักษาคุณภาพของวิตามินอีได้ดีกว่า
คงจะเห็นแล้วนะคะว่าทำไม วิตามินอี ถึงเป็นส่วนผสมที่จำเป็นมากๆ ในสกินแคร์ และทำไมเราถึงไม่ควรมองข้ามเลย...
ถ้าตอนนี้คุณกำลังมองหาครีมบำรุงผิวตัวใหม่ ลองพลิกดูฉลากส่วนผสม แล้วมองหาคำว่า Tocopherol หรือ Vitamin E ดูนะคะ เพราะนั่นแหละคือสัญญาณว่าคุณกำลังจะได้พบกับผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยกู้ผิวโทรมๆ ให้กลับมาสวยใส สุขภาพดีได้อีกครั้ง!
แล้วสาวๆ มีประสบการณ์กับการใช้วิตามินอีในสกินแคร์แบบไหนบ้าง? มาแชร์กันได้นะคะ...