เผยความลับ! สารสกัดจากเกาหลี ญี่ปุ่น และฝั่งตะวันตก แตกต่างกันยังไง? เลือกใช้ยังไงให้เหมาะกับผิวคนไทย?

คุณอยากรู้ใช่ไหมว่าสารสกัดจากเกาหลี ญี่ปุ่น และฝั่งตะวันตกต่างกันยังไง? แล้วจะเลือกใช้ให้เหมาะกับคนไทยแบบเราได้ยังไง? บทความนี้มีคำตอบ พร้อมเผยเคล็ดลับดีๆ จากโรงงานผลิตครีมที่จะทำให้ผิวสวยปังแบบไม่ซ้ำใคร!

เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง แตกต่างกันยังไง?

เริ่มต้นกันที่คำถามยอดฮิตเลยนะคะ เรามาดูกันว่าแต่ละแหล่งที่มาของสารสกัดเนี่ย เขามีปรัชญาและจุดเด่นอะไรที่แตกต่างกันบ้าง

สารสกัดเกาหลี เน้นผิวใสฉ่ำวาว แบบสาวโคเรีย

ถ้าพูดถึงเกาหลี สิ่งแรกที่นึกถึงเลยคือ "ผิวใสฉ่ำวาว" หรือที่เรียกว่า "Glass Skin" ใช่ไหมล่ะคะ? สารสกัดจากเกาหลีมักจะเน้นส่วนผสมที่ช่วยเรื่องความกระจ่างใส ลดเลือนจุดด่างดำ ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ และเติมความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟู เปล่งปลั่ง

  • จุดเด่น: เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ เช่น สารสกัดจากโสม ชาเขียว เมือกหอยทาก ใบบัวบก (Cica) และพืชหมักต่างๆ ซึ่งเชื่อว่าช่วยปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ และเสริมเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรง
  • เทรนด์: เกาหลีเป็นผู้นำเทรนด์สกินแคร์ที่มาแรงมาก ไม่ว่าจะเป็น 10-step skincare หรือการใช้ผลิตภัณฑ์หลายชั้น เพื่อให้สารบำรุงซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างเต็มที่
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนไทยที่ต้องการผิวใส โกลว์ฉ่ำ ลดรอยสิว ฝ้า กระ และต้องการฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรง
  • Tips จากโรงงานผลิตครีม: โรงงานผลิตครีม หลายแห่งในไทยได้นำนวัตกรรมและสารสกัดจากเกาหลีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยโดยเฉพาะเลยค่ะ
สารสกัดญี่ปุ่น เน้นผิวสุขภาพดี เรียบเนียน ไร้ที่ติ

หันมาทางญี่ปุ่นกันบ้างค่ะ สกินแคร์ญี่ปุ่นจะเน้นความเรียบง่าย แต่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ เขาเชื่อว่าการดูแลผิวที่ดีคือการสร้างพื้นฐานผิวให้แข็งแรงจากภายใน สารสกัดญี่ปุ่นมักจะช่วยเรื่องความชุ่มชื้น การกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และการลดเลือนริ้วรอย

  • จุดเด่น: ส่วนใหญ่จะใช้ส่วนผสมที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างล้ำลึก เช่น น้ำหมักสาเก ข้าวหมัก สาหร่ายทะเล คอลลาเจน และสารไฮยาลูรอนิค พวกเขาจะเน้นความอ่อนโยน และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
  • เทรนด์: ญี่ปุ่นเน้นแนวคิด "Less is More" คือการใช้ผลิตภัณฑ์ให้น้อยชิ้น แต่มีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะในกลุ่มผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยชะลอวัย
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนไทยที่ต้องการผิวเรียบเนียน กระชับ ลดเลือนริ้วรอย และต้องการบำรุงผิวอย่างล้ำลึก
  • Tips จากโรงงานผลิตครีม: ถ้าคุณกำลังมองหาสกินแคร์ที่ช่วยเรื่องริ้วรอย หรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นความอ่อนโยน โรงงานผลิตครีม ที่เชี่ยวชาญด้าน Anti-Aging มักจะเลือกใช้สารสกัดจากญี่ปุ่นมาเป็นส่วนประกอบหลักค่ะ
สารสกัดฝั่งตะวันตก เน้นวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมล้ำสมัย

มาถึงฝั่งตะวันตกกันบ้างค่ะ สกินแคร์จากฝั่งนี้จะโดดเด่นเรื่องวิทยาศาสตร์ การวิจัย และนวัตกรรมที่ล้ำสมัย พวกเขาเชื่อในการใช้สารออกฤทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูง เพื่อแก้ปัญหาผิวอย่างตรงจุด

  • จุดเด่น: มักจะใช้สารออกฤทธิ์ทางวิทยาศาสตร์ เช่น เรตินอล วิตามินซี ไนอะซินาไมด์ (B3) กรดซาลิไซลิก (BHA) และกรดไกลโคลิก (AHA) เพื่อปรับปรุงสภาพผิว ลดเลือนริ้วรอย แก้ปัญหาสิว และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • เทรนด์: ฝั่งตะวันตกเน้นการแก้ปัญหาผิวอย่างรวดเร็วและเห็นผลชัดเจน โดยมีการพัฒนาสูตรใหม่ๆ และเทคโนโลยีการนำพาสารบำรุงเข้าสู่ผิวอย่างต่อเนื่อง
  • เหมาะกับใคร: เหมาะกับคนไทยที่มีปัญหาผิวเฉพาะเจาะจง เช่น สิว รอยดำ รูขุมขนกว้าง หรือริ้วรอยที่ต้องการการบำรุงแบบเข้มข้น
  • Tips จากโรงงานผลิตครีม: หากคุณต้องการพัฒนาสูตรที่เน้นผลลัพธ์ที่รวดเร็วและตอบโจทย์ปัญหาผิวเฉพาะจุด โรงงานผลิตครีม ที่มีทีมวิจัยและพัฒนาที่แข็งแกร่งจะสามารถช่วยคุณได้ค่ะ

 

เลือกใช้ยังไงให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าคนไทย?

เมื่อเรารู้จักจุดเด่นของแต่ละแหล่งสารสกัดแล้ว คราวนี้มาดูกันว่าเราจะนำความรู้นี้ไปปรับใช้กับกลุ่มลูกค้าคนไทยได้ยังไงให้ปังที่สุด!

สภาพอากาศและผิวคนไทย ปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณา

ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนชื้น ทำให้ผิวคนไทยส่วนใหญ่มีแนวโน้มที่จะผิวมัน เป็นสิวง่าย หรือขาดความสมดุล นอกจากนี้ แสงแดดที่แรงก็เป็นสาเหตุของปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ และริ้วรอยก่อนวัย ดังนั้น การเลือกสารสกัดที่ช่วยเรื่องการควบคุมความมัน การปลอบประโลมผิว และการปกป้องผิวจากแสงแดดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

  • สำหรับผิวมัน เป็นสิวง่าย: สารสกัดจากชาเขียว ใบบัวบก (Cica) จากเกาหลี หรือ BHA จากฝั่งตะวันตก จะช่วยควบคุมความมัน ลดการอักเสบ และกระชับรูขุมขนได้ดี
  • สำหรับผิวแห้ง ขาดน้ำ: สารสกัดจากเมือกหอยทากจากเกาหลี ไฮยาลูรอนิคจากญี่ปุ่น หรือเซราไมด์จากฝั่งตะวันตก จะช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวอิ่มฟู
  • สำหรับผิวที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ: สารสกัดจากโสม วิตามินซี ไนอะซินาไมด์ (B3) จากเกาหลี/ฝั่งตะวันตก จะช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสและสม่ำเสมอ
  • สำหรับผิวแพ้ง่าย: ควรเลือกใช้สารสกัดที่อ่อนโยน เช่น สารสกัดจากใบบัวบก (Cica) หรือผลิตภัณฑ์ที่เน้นส่วนผสมจากธรรมชาติ และปราศจากสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
การผสมผสานสารสกัด สร้างสูตรลับเฉพาะตัว

ไม่ใช่ว่าจะต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งนะคะ เราสามารถผสมผสานสารสกัดจากแต่ละแหล่งมารวมกันเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดได้ ยกตัวอย่างเช่น :

  • สูตรลดสิวและรอยแดง: ผสมผสานสารสกัดใบบัวบก (Cica) จากเกาหลี เพื่อปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ ร่วมกับ BHA จากฝั่งตะวันตก เพื่อช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน
  • สูตรผิวใส ฉ่ำวาว ลดริ้วรอย: ใช้สารสกัดจากโสมหรือข้าวหมักจากเกาหลี/ญี่ปุ่น เพื่อความกระจ่างใสและกระตุ้นคอลลาเจน ร่วมกับเรตินอลจากฝั่งตะวันตก เพื่อลดเลือนริ้วรอยอย่างมีประสิทธิภาพ

การสร้างสรรค์สูตรเฉพาะแบบนี้จะทำให้ผลิตภัณฑ์ของคุณโดดเด่นและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าคนไทยได้อย่างตรงจุด และนี่คือความเชี่ยวชาญของโรงงานผลิตครีมที่สามารถช่วยให้คุณรังสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ของคุณเองได้

 

สู่ผิวสวยในแบบของคุณ

จะเห็นได้ว่าสารสกัดจากเกาหลี ญี่ปุ่น หรือฝั่งตะวันตก ต่างก็มีจุดเด่นและปรัชญาที่แตกต่างกัน การจะเลือกใช้สารสกัดแบบไหนให้เหมาะกับผิวคนไทยนั้น ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและความต้องการของแต่ละบุคคล รวมถึงความเข้าใจในสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการดูแลผิวของคนไทยด้วย

สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำความเข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และเลือกสรรสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อตอบโจทย์เหล่านั้น และนี่คือสิ่งที่โรงงานผลิตครีม ที่มีความเข้าใจในตลาดอย่างลึกซึ้งสามารถเป็นพาร์ทเนอร์คนสำคัญของคุณได้ค่ะ เพราะความสวย ไม่ใช่แค่ผิวใส หรือไร้ริ้วรอย แต่มันคือผิวสุขภาพดีที่สะท้อนความมั่นใจจากภายในสู่ภายนอก!

ติดต่อผลิตครีม/สอบถามเพิ่มเติม

  • Line ID
    @i.c.laboratories
  • ที่ตั้งโรงงาน
    444 หมู่1 ต.แพรกษา อ.เมืองสมุทรปราการ
    จ.สมุทรปราการ 10270
  • ที่ตั้งออฟฟิศ
    239/44-45 ม.5 ต.บางเมือง อ.เมืองสมุทรปราการ
    จ.สมุทรปราการ 10270